top of page

The Poem in Lied

Experiment Research

Experiment  Research

จัดทำแบบสอบถามโดยให้ฟังเพลงที่นำมาทดสอบโดยแบ่งเป็น

3 กลุ่ม

  •   1. ไฟล์เสียงที่ยังไม่ได้แปล และตอบคำถาม

  •   2. ไฟล์เสียงที่แปลมาแล้วแต่ยังไม่บอกความหมาย และตอบคำถาม

  •   3. พูดถึงความหมายของบทเพลงที่ทดสอบ และฟังบทเพลง   

           และตอบคำถาม ว่ารู้สึกอย่างไร

อายุของผู้ถูกสัมภาษณ์

20-27 ปี

     “เพลงตัวดนตรีมันสามารถสื่อได้ดีในระดับหนึ่งถึงจะไม่ได้รู้ความหมายของตัวเพลงก็ตามมีช่วงหนึ่งที่เป็น เมเจอร์สามารถรับรู้ได้ว่า ช่วงนั้น เป็นช่วงที่ฟังแล้ว ไม่เศร้าแต่มันก็กลับมาคีย์ไมเนอร์

อีกทีที่ฟังแล้วเศร้า ส่วนเพลงที่ 2 มันกลับดูเวิ้งว้างมากกว่าท่อนแรก มีความมึนงง เพราะทำนองเล่นซ้ำ และไม่รู้ความหมาย”

ฟังตัวเพลงโดยไม่มีคำแปล

         เพลงที่ 1 แสดงว่าผู้ฟังกลุ่มนี้ สามารถรับรู้ได้จาก  Harmony ที่ได้เปลี่ยน จาก Minor เป็นคีย์ Major ซึ่งท่อนที่เป็นคีย์ minor เป็นท่อนที่ฟังแล้วเศร้า ส่วนท่อนที่เป็นคีย์ Major ฟังแล้วรู้สึก ไม่เศร้า มีความอบอุ่น แต่มันก็กลับมาไมเนอร์อีกที ส่วนเพลงที่ 2 กลับเศร้ากว่าเพลงแรก ทำนอง มีการซ้ำ และ Harmony ที่ซ้ำไปซ้ำมา ฟังแล้วไม่เข้าใจกับตัวเพลง 

ฟังตัวเพลงโดยมีคำแปล

เนื้อเพลง

    “เพลงที่ 1 Schubertค่อนข้างให้

ความสำคัญกับการนำเนื้อร้องไปใส่ทำนองเป็นอย่างมาก ซึ่งSchubert นึกถึงความหลัง เขาก็ได้มีการ Modulate Key เป็น Major และมีบางท่อนที่มีทำนองเหมือนกัน แต่เนื้อร้องที่ต่างกันทำให้รู้สึกที่ต่างกัน เพลงที่ 2ค่อนข้างสื่ออารมณ์ที่ทำให้รู้สึกอาลัย เศร้า”

      แสดงว่าผู้ฟังกลุ่มนี้รับรู้ถึงความหมายเพลงจากการได้อ่านตัวบทกวีที่ได้แปลและ ตัวเนื้อร้องกับดนตรีที่มีความสัมพันธ์กัน มันทำให้เข้าใจตัวเพลงมากขึ้น

ฟังตัวเพลงโดยมีคำอธิบายเพลง

     “หลังจากได้อ่านความหมายของเพลง รู้สึกว่า ตัวเพลงมันสอดคล้องกับความหมายของเพลงและเข้าใจเพลง ”

    แสดงว่าผู้ฟังกลุ่มนี้รับรู้ถึงความหมายเพลงจากการได้อ่านความหมายที่ได้แปลและ ตัวเนื้อร้องกับดนตรีที่มีความสัมพันธ์กัน มันทำให้เข้าใจตัวเพลงมากขึ้นซึ่งจะคล้าย กลุ่มที่ 2 ที่ได้อ่านตัวบทกวี ที่แปลเป็นภาษาไทย

Popular Vote

8/10

8.5/10

8/10

     แสดงว่าตัวบทร้องกับตัวดนตรี มีความสัมพันธ์กัน ถึงกลุ่มที่ 1 จะไม่ได้อ่านบทกวีกับความหมาย แต่สามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเพลงในระดับหนึ่ง แต่กลุ่มที่ 2-3 นั้น สามารถเข้าใจตัวเนื้อร้องโดยการอ่านบทกวีและความหมายของเพลงยิ่งแสดงให้เห็นว่า ตัวบทร้องกับตัวดนตรี มีความสัมพันธ์และกัน ดนตรีสร้างความหมายให้กับเนื้อร้อง เพื่อให้แสดงออกมาให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น อนาคตของวิจัยนี้คือ การนำความเข้าใจของความสัมพันธ์ของบทร้องกับตัวดนตรี มาแต่งโดยนำบทประพันธ์ประเภทนี้ นำมาประพันธ์โดยใช้เนื้อร้องจากบทกลอนของไทย นำมาทำ บทประพันธ์ใหม่ เพื่อให้บทกลอนไทย ได้มีบทบาทในวงการดนตรีคลาสสิก และวงการเพลงทั่วไป มากยิ่งขึ้น เพื่อการอนุรักษ์ สืบต่อไป

Conclusion

© 2019 by Kawalee Phakarat. Proudly created with Wix.com

  • Facebook White Icon
  • YouTube White Icon
bottom of page